วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

ศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation)

ชื่อ นางสาว จินตภัทร์  นามสกุล สุปันตี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/9 เลขที่ 16

กลุ่มที่ 1
ปัญหาที่ศึกษา : ความรักในวัยเรียน

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ความรักเป็นความรู้สึก สภาพและเจตคติต่างๆ ซึ่งมีตั้งแต่ความชอบระหว่างบุคคล ไปถึงความพึงพอใจอาจหมายถึงอารมณ์ดึงดูดและความผูกพัน (attachment) ส่วนบุคคลอย่างแรงกล้า ในบริบททางปรัชญา ความรักเป็นคุณธรรม แสดงออกซึ่งความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ และความเสน่หาทั้งหมดของมนุษย์ ความรักเป็นแก่นของหลายศาสนา ความรักมีหลายอย่าง เช่น รักพ่อแม่ รักเพื่อน รักแฟน ความรักมีหลายรูปแบบซึ่งกลุ่มของดิฉันได้สนใจรูปแบบความรักในวัยเรียน หลายคนอาจจะเปรียบเทียบความรักในวัยเรียนว่าเหมือนจุดเทียนกลางสายฝน เพราะคิดว่าความรักในวัยเรียนนั้นเป็นความรักที่เป็นไปได้ยากหรือเป็นความรักที่ไม่แน่นอน และเป็นสิ่งหลอกหลวง ผู้ใหญ่หลายท่านคงมองความรักในวัยเรียนเป็นความรักของเด็กๆ และอาจมองข้ามความรักในวัยเรียน  เราไม่สามารถตัดสินได้ว่าการมีความรักในวัยเรียนนั้นมันดีหรือไม่ดีเพราะมันขึ้นอยู่กับตัวบุคคล บางคนที่รักกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมจนถึงเรียนจบปริญญาแล้วก็แต่งงานกันก็มี หรือบางคนอาจจะมากกว่านั้นก็เป็นได้ แต่ไม่ใช่ว่าความรักในวัยเรียนจะมีแค่ด้านดี แต่ความรักในวัยเรียนอีกด้านหนึ่งอาจจะไม่สวยงามอย่างที่คิดอาจมีทั้งสิ่งที่สวยงามและสิ่งที่เลวร้ายอยู่ด้วยกัน ขึ้นอยู่ว่าเราจะเลือกทางเดินชีวิตแบบใด ดิฉันได้จัดทำโครงงานครั้งนี้ขึ้นมาเพื่อสะท้อนให้เห็นทั้งข้อดีและข้อเสียของรักในวัยเรียนรวมถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับตนเองหรือคนรอบข้าง และทั้งนี้เพื่อให้ทุกๆคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้น

วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาปัญหาความรักที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่น
2. เพื่อเรียนรู้วิธีการใช้โปรแกรมการตัดต่อวีดิโอ การใช้มุมกล้องในการถ่ายภาพ

ผลการศึกษา
จากการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความรัก และการทำแบบสอบถามขึ้นมาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามในช่วงอายุ15-30 ปี เห็นด้วยกับการมีความรักในวัยเรียนร้องละ91.7 และร้อยละ 80.6 นั้นการมีความรักไม่ส่งผลกระทบต่อการเรียน ที่เหลืออีกร้อยละ19.4 ส่งผลกระทบต่อการเรียน นั่นแสดงให้เห็นว่าแต่ละคนนั้นมีการจัดการกับปัญหาของตัวเองได้แตกต่างกัน แต่ละคนจะมีมุมมองการใช้ชีวิตการจัดการกับชีวิตที่แตกต่างกันทำให้เกิดผลกระทบต่างๆออกมาทั้งในทางที่ดีและไม่ดีต่างออกไป และจากการศึกษาปัญหาของของความรักที่เกิดขึ้น พบว่ามีทั้งผลกระทบต่อการเรียน เกรดเฉลี่ยตกต่ำ เรียนไม่จบจนถึงขั้นการท้องในวัยเรียน แต่ปัญหาเหล่านี้นั้นล้วนแต่มีแนวทางการแก้ปัญหาและวิธีป้องกันหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับการนำมาประยุกต์ใช้ในเข้ากับชีวิตของตนเอง
            ขั้นตอนการตัดต่อวีดิโอ
1.Capture (จับภาพจากกล้อง/ดึงข้อมูล วิดีีโอจากแผ่น CD/DVD)
2.Edit (แก้ไข/ตัดต่อ)
3.Effect (ใส่เอฟเฟ็กต์)
4.Overlay (ทำภาพซ้อน)
5.Title (ใส่ตัวหนังสือ)
6.Audio (ใส่ดนตรีประกอบ/บันทึกเสียงบรรยาย)
7.Share (บันทึกวิดีโอที่ตัดต่อแล้ว ลงสื่อต่างๆ)


แนวคิดในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการค้นพบ
        การแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในวัยเรียนนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยอาศัยบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดทั้งเพื่อน ครอบครัว หรือคนในสังคม
1.ผู้ที่ใกล้ชิดกับเด็กให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องความรักความสัมพันธ์ตลอดจนปัญหาที่เกิดจากเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เพื่อให้เด็กได้ตระหนักในปัญหาต่าง ๆ มากขึ้น   และเพื่อให้เด็กสามารถยับยั้งปัญหาที่กำลังจะเกิดได้อย่างปลอดภัย และเมื่อเกิดปัญหาแล้วให้เด็กได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาจะทำให้เด็กเกิดความเชื่อมั่นในศักยภาพ/ความสามารถของตนในการดำเนินชีวิตต่อไป
2.ครอบครัว ได้เข้าใจและตระหนักว่า ความรักความอบอุ่นที่เพียงพอและพอเพียงจะสามารถนำพาครอบครัวให้เข้าใจในปัญหาได้อย่างแท้จริงและความรัก ความอบอุ่นนี้จะนำพาให้ครอบครัวเรียนรู้ที่จะยอมรับกันอย่างปราศจากเงื่อนไข เพื่อที่จะได้ร่วมกันเผชิญกับปัญหาได้อย่างมั่นคง พร้อมที่จะก้าวเดินไปพร้อมๆกัน ร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาในครอบครัวของเราได้
3. สังคมและสิ่งแวดล้อม  ต้องมีความรู้ความเข้าใจต่อธรรมชาติของ ความต้องการทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจของเด็กวัยนี้ เพื่อความเข้าใจต่อปัญหาสามารถเป็นแรงเสริมที่จะให้เด็กในวัยนี้สามารถผ่านพ้นวัยที่สำคัญนี้ไปได้ด้วยความเข้าใจ ความรู้จักและเข้าใจคุณค่าของตนจากความรักพื้นฐานความรักที่แท้จริงของพ่อแม่และครอบครัวตลอดจนบุคคลรอบข้างที่รักและปรารถนาดีต่อเด็กและสังคมยังสามารถประคับประคองเยาวชนที่ผ่านพ้นปัญหามาให้มีกำลังใจที่จะยืนหยัดในสังคมต่อไปอย่างเห็นคุณค่าในตนเอง พร้อมจะต้อนรับตนเองให้มีที่ยืนในสังคมต่อไป

นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการเรียนวิชา IS1
1.ได้เรียนรู้วิธีการจัดระบบการจัดการทำงาน
2.ได้ฝึกการทำงานเป็นทีม ทำให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ
3.ได้เรียนรู้ทำ web blog เพื่อใช้ในการนำเสนองานในรูปแบบที่ใหม่ขึ้น
4.ได้ศึกษาวิธีการใช้โปรแกรมตัดต่อหนังสั้น
5.ได้ฝึกการลงมือปฏิบัติงานทางด้านการคิดบทละคร การทำstory boardการวางแผนการทำหนังสั้น
6.ได้เข้าฝึกอบรมการทำหนังสั้นทำให้เราทราบแนวหนังที่ชอบ และสามารถนำความรู้ที่ได้นั้นไปสานต่อในอนาคตได้
7.ได้วิธีการทำงานกลุ่มที่สามารถทำพร้อมกันทีเดียวหลายๆคนได้เพื่อให้งานเสร็จเร็วมากยิ่งขึ้นและสามารถนำไปใช้ในวิชาอื่นๆได้

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558

รักจริงปิ๊งเก้อ "รักไม่ใช่เล่น


หนังสั้น "SKIP รักนี้ที่ข้ามไป"


10 เหตุผลทำไมคุณถึงไม่มีแฟนสักที

10 เหตุผลทำไมคุณถึงไม่มีแฟนสักที ของ แบบนี้จะบังคับให้ใครโสดใครไม่โสดไม่ได้หรอกนะคะ และไม่ใช่เรื่องผิดด้วยหากหลายคนเลือกที่จะครองตัวเป็นโสด เพราะการอยู่คนเดียวก็ยังดีกว่าต้องทนเจ็บปวดหากเลือกคบคนไม่ดีเข้ามาเดินใน ชีวิต ดังนั้นนี้อาจเป็นเพียง 1 ใน 10 ของเหตุผลที่เหล่าคนโสดคิดกันเท่านั้น และถ้าคุณอยากเหตุผลอื่นๆ อีกละก็ มาติดตามพร้อมๆ กันค่ะ ไม่แน่นะอาจจะตรงกับคุณก็ได้
large

 10 เหตุผลทำไมคุณถึงไม่มีแฟนสักที 

1. กลัวตารางชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลง
เชื่อ ไหมว่ามีหลายคนที่คิดแบบนี้ พวกเขามีตารางชีวิตที่ชัดเจน ไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ กินข้าวกับเพื่อน เล่นเกมส์อยู่บ้าน สารพัดสิ่งที่คุณทำเป็นกิจวัตร คุณกลัวเหลือเกินที่จะมีใครสักคนมาพรากสิ่งเหล่านี้ไปจากคุณ เพราะถ้ามีสาวเมื่อไร คุณอาจจะไม่ได้เล่นเกมส์อยู่บ้าน หรือกินข้าวกับเพื่อนได้บ่อยแล้ว นี่แหละที่คุณกลัวนักกลัวหนา
2. มีมาตรฐานสูง
ขาว สวย หมวย เอ็กซ์ หล่อ แมน บ้านรวย เรียนเก่ง แหมะ มาแบบยกเซตเลย ก็เพราะว่าคุณมีมาตรฐานที่สูงมาก เรียกว่าถ้าจะมีแฟนทั้งทีก็ขอให้ได้ตามสเปคที่วางไว้ เราสังเกตเห็นเพื่อนๆ หลายคนที่เจอคนที่คุยถูกคอ แต่ก็ไม่คบเป็นแฟน เพราะไม่ตรงสเปคที่วางไว้ ไม่ใช่แค่ผู้ชายหรอกที่เป็น สาวๆ ก็เป็นแบบนี้เยอะเหมือนกัน คุณนั่นแหละรู้ตัวเองดีที่สุด ว่าสเปคของคุณเป็นอย่างไร
3. รักอิสระ
ผู้ชาย ส่วนใหญ่กลัวการมีแฟน เพราะกลัวจะสูญเสียอิสรภาพที่ตนมี ฟังดูน่ากลัว แต่มันคือความจริง เพราะคุณยังอยากไปปาร์ตี้ ไปเฮฮากับเพื่อนฝูง อยากทำอะไรตามใจ ไม่อยากคอยรับโทรศัพท์ที่เอาแต่ถามว่า “อยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ไปกี่คน ทำไมไม่โทรศัพท์ช้า” สารพัดประโยคที่คุณจะได้ยินจากเธอ เนี่ยแหละที่ทำให้ยังเป็นโสดอยู่ทุกวันนี้
4. รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอสำหรับใคร
ฟัง ดูน่าเห็นใจสำหรับเหตุผลข้อนี้ หลายคนไม่กล้าใครก่อน เพราะรู้สึกว่าตนเองไม่มีอะไรดีพอ ไม่มีอะไรไปแข่งกับคู่ต่อสู้คนอื่นๆ บ้านก็ไม่รวย เงินเดือนก็น้อย หน้าตาก็ไม่ดี ถ้าคิดแบบนี้จริงๆ ก็อาจจะเป็นโสดตลอดไปนะคะ จริงๆ แล้ว บางคนเขาก็มีวิจารณญาณพอ หากใครที่คิดแบบนี้ ลองเปลี่ยนมุมมองดู
5. ลืมรักครั้งเก่าไม่ได้เสียที
รัก ครั้งเก่ามันฝังใจ โดนทำร้ายจนไม่มีชิ้นดี รักเธอเหลือเกิน แต่เธอไม่รักเรา สารพัดเหตุผลที่ทำให้คุณก้าวไปข้างหน้าต่อไม่ได้ เป็นแบบนี้ก็แย่ทีเดียว หนุ่มๆ หลายคน พยายามจะลืมรักครั้งเก่าด้วยการจีบสาวคนใหม่ ไม่ผิดนะที่จะทำแบบนี้ แต่ถ้าคุณยังเคลียร์ตัวเองได้ไม่ดี ก็อย่าเพิ่งมีใหม่เลยดีกว่า แน่นอนว่าการลืมใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า คุณอย่าพลาดโอกาสดีๆ ที่เข้ามาในชีวิตเลย
6. กิจกรรมเยอะ เพื่อนแยะ
ปีน เขา เดินป่า ดำน้ำ กินข้าวกับคนนั้นที คนนี้ที ไปเล่นเกมส์บ้านนั้นที บ้านนี้ที ไม่มีเวลาให้ใครจริงๆ พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ แบบนี้ก็โอเคค่ะ เพราะคุณพอใจกับสิ่งนี้ แต่ถ้าเหงาๆ อยากหาใครกอดสักคนก็ช่วยไม่ได้นะ
7. อยากมีความสัมพันธ์ที่ดีงามไปเลย ไม่อยากคบแล้วเลิก คบแล้วเลิก
เหนื่อย กับการเริ่มต้นใหม่ ไม่อยากเสียใจซ้ำๆ เราเข้าใจคุณ! เรื่องของความคิดห้ามกันไม่ได้ แต่ถ้าคุณคิดแบบนี้แล้วมาบ่นเหงา อยากมีแฟน อันนี้ก็ต้องปรับเปลี่ยนความคิดซะใหม่ คุณลองเริ่มต้นใหม่ แล้วคิดใหม่ว่า สิ่งต่างๆ ที่เข้ามาคือประสบการณ์ เสียใจเป็นเรื่องธรรมดา ชีวิตเราไม่ใช่สุข 100% อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณมีเป้าหมายชัดเจนก็ลุยเลยค่ะ ความโสดไม่ใช่เรื่องผิด
8. มีกำแพงในใจ
สร้าง กำแพงไว้ ไม่ยอมให้ใครใดพังทลายมันเข้ามา ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีกำลังจะทำลายมันนะ แต่เป็นตัวคุณเองที่ก่อกำแพงมันไว้ซะแน่นหนา ไม่ยอมคุย ไม่สนใจ
9. อยู่คนเดียวได้สบายมาก
กิน ข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เพราะไม่ต้องคอยเอาใจใครให้วุ่นวาย อยากกินอะไร ดูอะไรก็สามารถทำได้ตามใจตน จึงขอเป็นโสดไปก่อนแล้วกัน
10. ก็อยากมีอยู่ แต่ไม่มีใครเอา!
ข้อ นี้เจ็บปวดจริงๆ ก็อยากมีอยู่หรอกนะ แต่จีบทีไร เขาก็ไม่เคยสน เอาน่ะ ตราบใดที่พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก คุณก็ยังมีโอกาสเสมอ สู้เขานะ!

ที่มา : http://teen.mthai.com/love/91940.html

ผิดไหมถ้าริรักในวัยเรียน

ผิดไหมถ้าริรักในวัยเรียน
เพื่อนๆ อาจเคยได้ยินคำสอนของผู้ใหญ่ที่มักพร่ำเตือนเด็กชายเด็กหญิงวัยรุ่นว่า.. อย่าริรักในวัยเรียน มันยังไม่ถึงเวลา ซึ่งจริงๆ แล้วท่านเตือนด้วยและห่วงใยกลัวจะมีปัญหาอื่นๆ ตามมาหากมีแฟนทั้งๆ ที่ยังเรียนอยู่ ขณะที่วัยรุ่นเองก็กลัวโดนทางบ้านดุ ถ้ารู้ว่ามีแฟน ข้อห้ามหรือคำพูดดังกล่าวทำให้วัยรุ่นไม่กล้าที่จะบอกหรือพูดคุยเรื่องความ รู้สึกส่วนตัวกับพ่อแม่ เพราะคิดสรุปเองสิ่งนี่มันคือข้อห้ามจากคำพูดของผู้ใหญ่!! ดังนั้นมาดูสิว่าที่เพื่อนๆ คิดหรือกังวลตรงกับข้อไหนบ้างนะ..
Q : ริรักในวัยเรียนผิดหรือเปล่า
A : เรื่อง รักในวัยเรียนคงไม่ใช่สิ่งที่ผิดหรอกค่ะ หากความรักนั้นอยู่ในขอบเขตที่พอดีและเหมาะสมต่างฝ่ายต่างให้เกียรติและ เคารพในบทบาทหน้าที่ของกันและกัน ที่สำคัญเพื่อนๆต้องแยกให้ออกระหว่างเรื่องความรักกับการเรียน สองสิ่งนี้ต้องจัดลำดับว่าสิ่งไหนสำคัญกว่ากัน ณ ช่วงเวลานั้นของตัวคุณเอง แน่นอนว่าถ้าเรายังเด็กการเรียนย่อมมาเป็นอันดับแรกและเมื่อโตขึ้นมีหน้าที่ การงานมั่นคงเราก็พร้อมที่จะมีความรักอย่างจริงจังในการมองหาคู่ชีวิต ไม่ใช่รักใสๆ แบบวัยเรียนแล้วล่ะค่ะ
Q : รักครั้งแรกเป็นอย่างไร
A : แหมถ้าถามถึงรักครั้งแรก หลายคนย่อมรู้สึกจดจำได้ดีเป็นพิเศษ เพราะเป็นรักใสๆในวัยเรียน เป็นความรู้สึกพึงพอใจ รู้สึกปลื้มใครสักคนหรือที่เรียกว่าชอบ จนพาลให้คิดไปว่านั่นคือความรัก และความรักกับความใคร่นี้ก็ใกล้นิดเดียวเองค่ะ ฉะนั้นแล้วรักให้เป็นต้องไม่ทำร้ายตัวเองและผู้อื่น หากรู้ว่าจะมีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางอนามัยเสริมความปลอดภัยให้ชีวิตกันนะคะ
Q : ทำ ไงดีถ้ามีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยที่ทางบ้านไม่
A : เมื่อเราทราบว่า การกระทำของเราไม่ถูกต้องหรือคำนึงได้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมา ก็ควรป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก หากจำเป็นก็ควรป้องกันการตั้งท้อง และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้งที่มีเพศ สัมพันธ์ค่ะ แต่หากท้องขึ้นมาจริงๆ ก็ควรปรึกษาทางบ้านเพื่อหาทางออกเรื่องนี้ร่วมกัน หรือโทรสอบถามหน่วยงานที่รับให้คำปรึกษาในเรื่องนี้
Q : สมมติเกิดท้องขึ้นมา แต่อยากเรียนต่อจะทำไงดี
A : ถ้า อยากเรียนต่อแต่ติดที่ตั้งท้องก็ยื่นเรื่องขอพักการเรียนชั่วคราวไว้ก่อนค่ะ เมื่อคลอดแล้วก็ทำเรื่องกลับเข้ามาเรียนใหม่ หรือปรึกษาผู้ใหญ่ คนในครอบครัว สิ่งสำคัญคือโรงเรียนและผู้บริหารโรงเรียน ไม่ควรปิดกั้นเด็กด้วยทัศนคติส่วนตัวตัดสินเด็กดีหรือไม่ดีจากเรื่องนี้ แล้วบีบเด็กให้ต้องลาออกหรือย้ายโรงเรียนซึ่งทำให้เด็กหมดอนาคต เพราะนั่นไม่ใช่นโยบายการแก้ปัญหาของกระทรวงศึกษาธิการ
Q : ผู้หญิงมีทางเลือกยุติการตั้งท้องไหมโดยไม่ผิดกฎหมาย
A : กฎหมายอนุญาตให้ผู้หญิงยุติการตั้งท้องได้ในกรณีต่อไปนี้
- การตั้งท้องเป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพของผู้หญิง
- ผู้หญิงที่มีอาการทางจิตก่อนหรือหลังขณะตั้งท้อง
- การตั้งท้องเกิดจากการข่มขืน
- การตั้งท้องโดยที่ผู้หญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี
Q : แล้ว ถ้าท้องไม่พร้อมจริงๆ มีหน่วยงานใดช่วยเหลือผู้หญิงบ้าง
A : สำหรับหน่วยงานที่ให้บริการช่วยเหลือการปรึกษาทางเลือกสำหรับ ผู้หญิงท้องไม่พร้อม อาทิ ศูนย์นเรณทรพึ่งได้ โรงพยาบาลสมุทรปราการโทร. 1669 ศูนย์พึ่งได้โรงพยาบาลประทุมธานี โทร.02-598-8753 มูลนิธิเพื่อนหญิง โทร.02-513-1001 โรงพยาบาลตำรวจ โทร. 02-253-0121 02-253-0121 ฯลฯ เพื่อประเมินหาทางเลือกที่เป็นไปได้ และเหมาะสมกับแต่ละบุคคลเพราะทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอค่ะ

ที่มา : http://campus.sanook.com/921749/

ความรักที่อาจก่อปัญหาในวัยเรียน

                    วัยรุ่นที่อยู่ในวันเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา  ส่วนมากจะมีคนรักกันแล้ว  จะเป็นเพราะทันสมัย  ใครที่หาคนรักไม่ได้ก็คงคิดว่าเชยมากๆ  การติดต่อกันระหว่างหนุ่มสาวไม่ต้องเสียเวลาเหมือนเมื่อก่อน  ปัจจุบันนักเรียนนักศึกษาบางคนมีพร้อมแม้กระทั่งเพจเจอร์และโทรศัพท์มือถือ  (ไม่ทราบว่ามีไว้เพื่อกิจการใด)  สามารถโทรติดต่อกันโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที  ก็สื่อความหมายได้เข้าใจ

                   หลายๆ  คู่รักจริงหวังแต่ง  จึงต้องใช้ความพยายามถนอมน้ำใจ  รักเดียวใจเดียว  ส่งกำลังใจให้กัน  ปรึกษาหารือในด้านการเรียน  ช่วยกันทำงาน  ช่วยกันทำการบ้าน  ส่งอาจารย์  เรียนไปด้วยรักและให้กำลังใจกันไปด้วย  มีความสุขสดชื่น
                ความรักมิใช่เป็นสิ่งที่หอมหวานเสมอไป  หลายคู่ที่มีปัญหา  ขาดความจริงใจต่อกัน  มีแต่ความใคร่  ขาดซึ่งความรัก  ชิงสุกก่อนห่าม  ซึ่งผลที่ติดตามมาคือ  แต่ละฝ่ายเริ่มมีปัญหาด้านการเรียน  การขาดเรียนจะมีเป็นประจำ  เริ่มเบื่อหน่ายต่อการทำหน้าที่การเรียน  โกหกพ่อแม่ไปวันๆ  เพื่อขอค่าใช้จ่ายตามปกติที่ควรจะได้  แต่งชุดนักเรียนนักศึกษาเดินทางไปและกลับจากโรงเรียนเป็นปกติกับเพื่อนๆ  แต่ปรากฏว่าไปไม่ถึงโรงเรียน  เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาฝนกิจกรรมต่างๆ  นอกเหนือจากการเรียน  นัดพบหนุ่มสาวเข้าไปในแหล่งการพนัน  สนุ๊กเกอร์  สถานเริงรมย์ต่างๆ  เท่าที่จะสามารถไปได้  เริ่มมั่วสุมในอบายมุข  บุหรี่  ยาเสพติด  สาวค้าประเวณี  ผลที่ติดตามมาคือแต่ละฝ่ายต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน  คลินิกทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายและคลินิกเถื่อนที่จัดตั้งขึ้นโดยทั่วไป  เพื่อแก้ปัญหากับสาวๆ  ที่มีความทุกข์  เป็นการแก้ปัญหาทางการเรียนที่ยากลำบากมาก  บรรดานักเรียนนักศึกษาสาวที่ต้องดิ้นรนตัวเองไปหาหมอเถื่อน  ต้องก้มหน้ารับกรรมที่ตนได้ก่อขึ้นด้วยความทุกข์ระทม  เงินที่ได้มาเพื่อนำมาให้หมอ  ไม่ต้องสงสัยว่าหามาได้อย่างไร  ถ้าไม่ขอยืมหรือลักขโมยก็คงจะใช้วิชามารในการโกหกพ่อแม่หรือญาติพี่น้องหาเงินมาให้หมอเถื่อนทั้งหลาย  เงินก็เสีย  เจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจกาย  อับอายขายหน้า  นอกจากนั้นต้องเสี่ยงกับความมีชีวิตรอดหรือไม่รอด  ถ้ามีชีวิตรอดจะต้องตกเป็นเป้าสายตาของชุมชนและสังคม ที่คอยดูถูกเหยียดหยาม  สายตาของสังคมจะตราหน้าถึงความอัปยศ  การเรียนแทบไม่ต้องพูดถึง  เพราะขาดการติดต่อเป็นเวลานาน  จะเข้าเรียนก็เกรงว่าจะได้รับการดุด่าว่ากล่าวหรือคำตำหนิติเตียนจากครู  อาจารย์  ถูกค่อนแคะจากเพื่อนร่วมห้องเรียน
                    กิจกรรมนอกเหนือจากการเรียน  เป็นสิ่งที่ชดเชยกับผู้ที่หลงผิด  ส่วนมากจะปล่อยเนื้อปล่อยตัว  เพราะอย่างไรเสียก็สูญเสียร่างกายไปแล้ว  กิจกรรมร่วมกับเพื่อนชายกลับกลายเป็นเรื่องปกติ  เริ่มรับสิ่งเสพติดทั้งหลายทั้งปวงเข้าในร่างกาย  การหาเงินเพื่อซื้อสิ่งเสพติดมีความถี่มากขึ้น
                         ฝ่ายชาย  หลังจากที่สลัดรักคนเก่าแล้ว  ก็มุ่งหารักใหม่และหวังในการทำลายลูกผู้หญิงไปเรื่อยๆ  หลังจากนั้นก็สร้างความแตกร้าวเหมือนกับที่เคยปฏิบัติกับคนก่อนๆ  แต่การกระทำดังกล่าวผลกรรมก็ตกอยู่กับตัวเขาเอง  โดยเข้าไปพัวพันกับแก๊งค้ายาบ้า  ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม  นำตนเองเข้าไปอาศัยอยู่ในเรือนจำ
                     ความรักของหนุ่มสาวเป็นความรักที่หอมหวาน  เป็นวัยแห่งความสดชื่น  วัยอยากลองอยากรู้  อยากสัมผัส  เป็นวัยที่ต้องพยายามใฝ่หาคนรู้ใจ  คนให้กำลังใจและเอาใจซึ่งกันและกัน
                หนุ่มหลายๆ  คนมีปัญหาถึงกับต้องมีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อย  ถึงขั้นรวมสมัครพรรคพวกเพื่อไปทำร้ายร่างกายกับคู่อริ  เมื่อทราบว่าหนุ่มคนดังกล่าวมีพฤติกรรมมาแย่งคนรักของตนเอง  ต้องเดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ  อาจารย์หัวหน้างานปกครองของสถานศึกษา  รวมทั้งพ่อแม่พี่น้องโดยทั่วไป  เพื่อไกล่เกลี่ยปัญหาที่เกิดขึ้นไปในทางที่ดี
                       ข่าวที่เกิดขึ้นจากสื่อแทบทุกชนิด  ทั้งหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น  หนังสือพิมพ์ระดับชาติ  ข่าวที่แพร่ภาพทางโทรทัศน์  เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า  ปัญหาที่เกิดขึ้นของสังคมทุกวันนี้  นอกจากเหตุที่เกิดจากอาชญากรรมกับบุคคลทั่วไป  ยังมีข่าวของนักเรียนนักศึกษาที่ก่อปัญหาอาชญากรรม  ปัญหาแย่งชิงคนรักจนถึงกับทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต  บางคนแก้ปัญหารักของตนเองไม่ได้ถึงกับต้องกินยาฆ่าแมลง  กระโดดตึก  และวิธีการอย่างอื่นๆ  เพื่อหนีปัญหา
                   ปัญหาความรักที่เกิดขึ้นระว่างวัยเรียน  จะไม่เกิดเฉพาะในหมู่เพื่อนเดียวกันเท่านั้น  หลายครั้งที่อ่านข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์  หรือข่าวจากโทรทัศน์  นักเรียนนักศึกษาสาวกับครูอาจารย์นาถานศึกษามีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางชู้สาว  ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความเสื่อมเสียกับอาชีพของคนที่สร้างคนและสอนคน  นับว่าเป็นจุดบอดของวงการการศึกษา  ที่ถือว่าอาชีพครู  เป็นอาชีพที่มีเกียรติสูงมาก  เป็นที่นับหน้าถือตามของนักเรียน  นักศึกษา  ผู้ปกครอง  และบุคคลทั่วไป  ปัญหาที่เกิดแต่ละครั้งจะกระทบกระเทือนจิตใจของบรรดาครูอาจารย์อย่างมาก

                                                ที่มา : http://www.oknation.net/blog/somchoke101/2007/12/31/entry-2

30 ข้อคิดสั้นๆ เมื่อเจออุปสรรคในความรัก ก่อนจะสาย

หลายคู่ตอนแรก รักกันมาก จนคนอิจฉา แต่เวลามีปัญหากับแก้ไขให้ผ่านพ้นไปไม่ได้ซะอย่างนั้น เมื่อปัญหาเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็กลายเป็นว่าเส้นทางรักต้องจบลง แต่เคยคิดไหมคะว่า ปัญหาเหล่านี้เกิดจากเราเองหรือเค้าที่ไม่ปรับเปลี่ยนมุมมองความคิด หรือไม่ยอมรับฟังอีกฝ่ายเลยหรือเปล่า ถ้าคุณกำลังมีปัญหาแบบนี้ละก็ 30 ข้อคิดสั้นๆ เมื่อเจออุปสรรคในความรัก ก่อนจะสาย นี้ น่าจะทำให้คุณทราบคำตอบ และหันกลับมามองปัญหา แก้ไขไปพร้อมๆ กัน
love 2 0k

30 ข้อคิดสั้นๆ เมื่อเจออุปสรรคในความรัก ก่อนจะสาย

1. เวลาทะเลาะกัน ให้รีบคิดว่าพรุ่งนี้ก็ลืมแล้วว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ให้รีบคืนดีกัน
2. อย่าเบื่อที่จะรับสาย เพราะมันดีกว่าไม่มีใครโทรเข้ามา
3. ไม่มองบ้าง ไม่พูดบ้าง ทำให้ความรักยืนยาวขึ้น
4. ความรักไม่ใช่เกมส์กีฬา อย่ามัวแต่หาคนชนะหรือแพ้ ไม่เช่นนั้นเราอาจจะเป็นนผู้แพ้ทั้งคู่
5. เมื่อคนหนึ่งพูด อีกคนต้องฟัง
6. อย่าเปรียบเทียคนรักของเรากับคนอื่น
7. หาเวลาออกไป dinner บ้าง
8. อย่ามองเหตุผลของตนเป็นใหญ่เสมอ
9. เข้าใจให้มากกว่าเอาแต่ใจ
10. ทำให้เหมือนเพิ่งรักกันวันแรกเสมอ
11. ต้องเข้าใจว่า คิดต่างกัน ไม่ได้แปลว่าไม่รักกัน
12. ฝึกคิดบวกให้มากกว่าคิดลบ
13. กอดกันให้บ่อย เท่าที่คิดถึงกัน
14. ยิ้มให้กัน ให้มากกว่าที่กอดกันยิ่งดี
15. การใช้ชีวิตคู่เท่ากับการแชร์พื้นที่กัน
16. จำไว้ว่า “พื้นที่ส่วนตัว” สำคัญต่อการใช้ชีวิตคู่เสมอ
17. อย่าทำงานหนักเกินไป จนลืมว่ามีใครที่สำคัญกว่านั้น
18. ก่อนนอน..ห่มผ้าให้กันบ้าง
19. ความรักก็เหมือนการเต้นรำ…บางจังหวะเราต้องนำ บางจังหวะเราก็ต้องตาม
20. อย่าทำร้ายคนที่เรารัก ด้วยคำพูดที่แปลว่าไม่รักกัน
21. ดูแลร่างกายกันแล้ว ก็อย่าลืมดูแลจิตใจกันด้วย
22. ความรักหมดได้…ก็เติมใหม่ได้
23. “สู้” “เป็นกำลังใจให้นะ” 2 คำนี้ ที่ควรพูดบ้าง
24. ทำให้คนเรารักรู้ว่า จะมีเราเคียงข้างและพร้อมที่จะเดินไปด้วยกันเสมอ
25. ยอมรับที่จะเรียนรู้ ถ้าคิดจะใช้ชีวิตคู่กับใครอีกคน
26. หัดลืมอดีต และเรื่องเก่าๆเสียบ้าง
27. ลองออกไปยืนมองพระจันทร์เต็มดวงด้วยกันบ้างก็ดี
28. ต้องรู้จักพูด “ขอโทษ” ให้เป็น (ถึงไม่ผิดก็ “ขอโทษ” ได้)
29. แชร์เพลงรักไปให้เค้าหรือเธอฟังบ้าง
30. จำไว้ว่า สุดท้ายไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า “ครอบครัว”